สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชัยภูมิ

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชัยภูมิ



อุทยานแห่งชาติตาดโตน



อุทยานแห่งชาติตาดโตน

มีน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ตั้งอยู่ ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีลานหินกว้างและมีน้ำไหลตลอดปี ด่านล่างของน้ำตกเล่นน้ำได้
อุทยานแห่งชาติตาดโตน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา มีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของเทือกเขาภูแลนคา โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงโดยมีเทือกเขาล้อมรอบที่ราบเอาไว้ ตอนกลางเป็นหุบเขากว้างใหญ่ พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะมีเขาภูเขียว ภูกลาง และภูแลนคา ซึ่งจะมีระดับสูงสุด 905 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือจะมียอดภูแลนคาซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติตาดโตน โดยมีความสูงประมาณ 945 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาสูงเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารของห้วยต่างที่สำคัญหลายสาย และต้นกำเนิดของน้ำตกตาดโตน ได้แก่ ห้วยลำปะทาวหรือห้วยตาดโตน ห้วยน้ำซับ ห้วยคร้อ ห้วยตาดโตนน้อย ห้วยสีนวน และห้วยแก่นท้าว ซึ่งจะไหลรวมกันเป็นห้วยปะทาวและไหลผ่านตัวอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมีห้วยที่สำคัญคือ ห้วยชีลอง ห้วยช่อระกา ห้วยเสียว ห้วยแคน และห้วยเสียวน้อย สภาพป่าเป็นป่าดิบแล้ง ในบริเวณริมลำห้วยหุบเขาและยอดเขามีดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดี และป่าเต็งรังเป็นดินกรวด มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักล่วงหน้าได้ที่ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 579-0529, 579-4842 การเดินทาง ไปตามทางหลวงหมายเลข 2051 จากตัวเมืองถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 21 กม. ถนนราดยางตลอดสาย


อุทยานแห่งชาติภูแลนคา


    อุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีพื้นที่ 148 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง บ้านเขว้า หนองบัวแดง และเกษตรสมบูรณ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน สภาพป่ามีทั้งป่าทึบและป่าโปร่ง เป็นต้นน้ำลำธารของลำห้วยที่ไหลลงสู่แม่น้ำชี มีจุดเด่นทางธรรมชาติหลากหลายทั้งหน้าผาสันเขา ลานหินและก้อนหินรูปร่างแปลก ๆ รวมทั้งพืชพรรณที่น่าสนใจ เหมาะมาเที่ยวชมในระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม ทางอุทยานฯได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอุทยานฯ ได้แก่


     ป่าหินงามจันทร์แดง เป็นลานหินกว้างที่มีก้อนหินรูปร่างลักษณะแปลกพิสดารต่าง ๆ จำนวนมาก โดยมี ต้นจันทร์แดงเจริญเติบโตบนโขดก้อนหินใหญ่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ การเดินทางต้องเดินเท้าเข้าไปและ
ใช้เวลามาก

     ภูคี เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เชื่อมต่อกันระหว่างอำเภอเกษตรสมบูรณ์กับอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,038 เมตร เป็นยอดภูที่สูงที่สุดของพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งสามารถมองเห็นภูมิประเทศและบรรยากาศภูหยวก ภูตะเภา เทือกเขาภูเขียว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี รวมทั้งพื้นที่ที่มีพันธุ์ไม้ป่าและสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก
     ภูเกษตร เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 966 เมตร เป็นยอดภูที่สูงเป็นอันดับสองรองจากภูคีของพื้นที่อุทยานภูแลนคา ซึ่งสามารถมองเห็นภูมิประเทศและบรรยากาศของภูคี
ภูอ้ม ภูคล้อ ภูกลาง เทือกเขาภูเขียว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศหนาวเย็นและแห้งแล้ง เพราะสภาพพื้นที่ป่าไม้บนยอดภูถูกทำลายจากการบุกรุกพื้นที่ของราษฎร และกลายเป็นไร่ร้างที่มี
พื้นที่กว้างใหญ่บนเทือกเขาภูแลนคา

      ทุ่งดอกกระเจียวบริเวณป่าหินงามทุ่งโขลงช้าง เป็นพื้นที่ป่าเต็งรังที่มีต้นกระเจียวขึ้นอยู่ตามซอกหินสลับกับต้นไม้นานาชนิด มีทั้งดอกสีชมพูและดอกสีขาวนอกจากนี้ยังมีก้อนหินใหญ่คล้ายช้าง เหมาะมาเที่ยวชมในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
จุดชมวิวลานหินร่องกล้า เป็นลานหินกว้างใหญ่ และหินแตกเป็นร่องลึกจำนวนมาก พร้อมกับเกิดขึ้นเป็นผาหินเด่นชัด สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700-800 เมตร
จุดชมวิวป่าหินปราสาท มีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายปราสาทเป็นลักษณะเด่นในพื้นที่และเป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติ ผาแเพ เป็นผาหินขนาดใหญ่ที่เกิดจากการยกตัวสูงขึ้นของชั้นหินและการไหลเลื่อนของหินแร่ ซึ่งปรากฏเห็นเป็นเนื้อสีหินแร่ที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัด และบริเวณโดยรอบถูกปกคลุมด้วยพรรณไม้นานาชนิด และในการเดินทางต้องเดินทางด้วยทางเท้า ประตูโขลง (ซุ้มประตูหินธรรมชาติ) เป็นก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายประตูหิน บริเวณโดยรอบยังมีก้อนหินลักษณะแปลกพิศดารจำนวนมากสลับกับป่าเต็งรัง ผากล้วยไม้ เป็นหน้าผาสูงลดหลั่นตามลำดับ โดยทอดตัวยาวติดต่อกัน มีพันธุ์กล้วยไม้หายากหลายชนิดขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดผาถ้ำพระและถ้ำเกลือ เป็นลักษณะถ้ำหินทรายขาวที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำที่ไหลลอดไปตามซอกหิน และเกิดปฏิกิริยาทางเคมีเป็นเวลานาน ประกอบกับการผันแปรและการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของชั้นหินทราย จนเกิดโพรงขนาดใหญ่และสามารถเดินเข้าไปในถ้ำได้ ซึ่งแต่ละถ้ำจะมีลักษณะเด่นแตกต่างกันตามสภาพการผันแปร
       น้ำตกตาดโตนน้อย เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นจากลำห้วยน้อยใหญ่ไหลมารวมกัน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูเกษตร และเป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปีเขาขาดและแม่น้ำชี เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นทางธรรมชาติของเทือกเขา โดยเกิดขึ้นจากการยุบตัวและยกตัวของเทือกเขาภูแลนคากับเทือกเขาพังเหย กลายเป็นช่องเขาขาด และมีตำนานเล่าสืบต่อกันมานาน ส่วนแม่น้ำชีเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดชัยภูมิ ที่ไหลผ่านพื้นที่บางส่วนของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นผลให้เกิดทัศนียภาพทางธรรมชาติและทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำชี
      นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ซึ่งมีก้อนหินแปลก ๆ อีกหลายแห่ง ได้แก่ ป่าหินงามปราสาท ป่าหินงามหงส์ฟ้า และแนวหน้าผาซึ่งเป็นจุดชมวิวสวยงามอุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรม สอบถามรายละเอียดได้ที่อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โทร. 0 4481 0902-3 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th
การเดินทาง จากตัวเมืองชัยภูมิเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2051 ประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 2159 ทางไปหนองบัวแดงอีก 26 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือ มีรถสองแถวสายชัยภูมิ-หนองบัวแดง วิ่งผ่านหน้าที่ทำการอุทยานฯ


มอหินขาว (เสาหินมหัศจรรย์ล้านปี)


    มอหินขาวตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่จำนวน 3 กลุ่ม โดยจะมีหินทรายก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเป็นสีขาวและโดดเด่นในพื้นที่ และเป็นที่มาของคำว่า มอหินขาว และในบริเวณยังเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 5 เสา ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว มีความสูงประมาณ 12 เมตร นอกจากนั้นยังมีแท่นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ เจดีย์ หอเอียงเมืองปิซ่า และคล้ายกระดองเต่า ซึ่งจัดเป็นกลุ่มหินที่ 1 กลุ่มหินที่ 2 อยู่ห่างออกไป แท่นหินจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป และเมื่อห่างออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร จะเป็นกลุ่มหินที่ 3 ที่เป็นแท่นหินและเสาหินขนาดเล็ก โดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผาที่มีชื่อว่า ผาหัวนาก และบริเวณมอหินขาวยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิที่มาของชื่อ มอหินขาว: เดิมพื้นที่แถวนี้เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่ และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่มันสำปะหลัง   (ในสมัยนั้น) ของลุงก็มีก้อนหินใหญ่ขึ้นทั่วไป แต่ที่ลุงเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่ามอหินขาวสโตนเฮนจ์ เมืองไทยเสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง ซึ่งสันนิษฐานว่าก้อนหินขนาดยักษ์เหล่านี้มีอายุประมาณ    175-195 ล้านปี และเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียว
กลุ่มหินของมอหินขาวกลุ่มที่โดดเด่นที่สุด คือ กลุ่มหินแรกที่มีเสาหินขนาดใหญ่ 5 ต้นเรียงรายกันอยู่ เสาหินเหล่านี้มีความสูงราว12 เมตร ต้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดต้องใช้คนโอบไม่น้อยกว่า 20 คน เชื่อว่าที่นี่จะได้รับความนิยมในบ้านเราในเวลาไม่นานนัก
สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม



   
     อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 270 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิประมาณ 100 กิโลเมตร ทุ่งดอกกระเจียว เปรียบเสมือนเป็นราชินีแห่งมวลดอกไม้ของขุนเขาแห่งนี้ ที่ทุกคนตั้งใจมาดู มาชมความงามตระการตา ดอกสีชมพูอมม่วงที่ดารดาษไปทั้งผืนป่า ตัดกับสีเขียวขจีของหญ้าเพ็กและโขดหิน ประดุจเทพจากสรวงสวรรค์ประทานให้กับแผ่นดินที่นี่ เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เมื่อปี พ.ศ. 2536 กรมป่าไม้ได้ทำการสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียด และพบว่ายังมีพื้นที่ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อรวมกับพื้นที่เดิมแล้วมีประมาณ 112 ตารางกิโลเมตร หรือ 70,000 ไร่ ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจทางธรณีวิทยาอีกมากมาย สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบของอุทยานแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการจัดตั้งพื้นที่แห่งนี้ให้เป็น "อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม" นับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2537 เป็นต้นมา
สถานที่ท่องเที่ยว
ลานหินงาม เป็นลานหินที่มีรูปร่างแปลกในพื้นที่กว่า 10 ไร่ เกิดจากการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน มองดูสวยงามเป็นที่อัศจรรย์ สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของที่ทำการอุทยาน ฯ มีทางรถยนต์เข้าถึง
จุดชมวิวสุดแผ่นดิน เป็นหน้าผาสูงชัน และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหยซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม สูงประมาณ 846 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เกิดจากการยกตัวของพื้นที่เป็นที่ราบสูงอีสาน จึงเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน ทำให้เรียกบริเวณนี้ว่า "สุดแผ่นดิน" ณ จุดนี้จะเห็นทิวทัศน์ของสันเขาพังเหย และเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จุดชมวิวนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือของที่ทำการอุทยาน ฯ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
 
ทุ่งดอกกระเจียว กระเจียวเป็นพืชล้มลุกประเภทหัว เป็นพันธุ์ไม้ประจำถิ่นที่ขึ้นมากที่สุดในประเทศไทย ณ ที่แห่งนี้ ปกติจะพบขึ้นกระจายทั่วไป ตั้งแต่ลานหินงามจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน 1 กิโลเมตร ดอกกระเจียวจะขึ้นและบานเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝนเท่านั้น คือเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี ดอกกระเจียว 

กระเจียวบัว ปทุมมาหรือบัวสวรรค์ เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันติดปาก เป็นพันธุ์ไม้ประจำถิ่น ที่ขึ้นมากที่สุดในประเทศไทยที่อุทยานฯแห่งนี้ ปกติจะขึ้นปะปนกับหญ้าเพ็ก ซึ่งเป็นไม้พื้นล่างของป่าเต็งรัง หรือป่าโคกที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นห่าง ๆ สลับกับหิน ส่วนใหญ่จะมีไม้เหียงเป็นไม้เด่นกระจายอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ลานหินงามจนถึงจุดชมวิว"สุดแผ่นดิน" ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังพบกระเจียวชนิดนี้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งอยู่ในแนวสันเขาพังเหยเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อุทยานแห่งชาติไทรทอง น้ำตกไทรทอง

•  อุทยานแห่งชาติไทรทอง  อยู่ในท้องที่อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอเทพสถิต อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ ...